ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แก้ปัญหา Visual Studio 2008 Server Tool connect กับ SQL Server Compact Edition 3.5 ไม่ได้

สาเหตุเพราะเขียนติดต่อกับไฟล์ .sdf เครื่องหนึ่งที่เป็น Win8.1 แล้วย้ายไปรันกับอีกเครื่องหนึ่งที่เป็น Win7 พบว่า SQLServerCE.dll คนละเวอร์ชัน ก็เลย reference ใหม่ พอจะย้ายกลับมาใช้เครื่อง Win8.1 เดิมกลับใช้ไม่ได้ ก็เลย Uninstall พวก runtime ต่าง ๆ ของ SQL Server Compact Edition ตั้งแต่ 3.5,3.5SP1 ยัน 3.5SP2 สุดท้ายพอจะ add connection ใน Data Source กลับไม่มีให้เลือก SQL Server compact edition 3.5 ทำหลายอย่างทั้ง uninstall VS2008 Team System แต่ไม่ได้เอา SP1 ออก เลยเพี้ยนหนัก แนวทางแก้ไขที่พอนึกออกดังนี้

1. Uninstall VS2008 Team System
2. Uninstall MS VS2008 Remote Debugger
3. Uninstall MS Windows SDK for VS2008 .NET framework tools -enu
4. Uninstall MS Windows SDK for VS2008 Headers and Libraires
4. Uninstall MS Windows SDK for VS 2008 SDK Reference Assemblies and IntelliSense
6. Uninstall Windows SDK for VS 2008 SP1 Tools
7. Uninstall MS Windows SDK for VS 2008 SP Win32 Tools
8. Uninstall MS .NET Compact Framework 2.0 SP2
9. Uninstall MS .NET Compact Framewrk 3.5
10. Uninstall MS SQL Server 3.Compact 3.5 ทุกตัวใน Uninstall a program
11. turn feature off .net framework 3.5
12. restart
13. มันจะฟ้องว่ามี app ที่ต้องการรัน .Net Framework 3.5 ให้เปิด turn feature on
14. install VS2008 Team System อีกรอบ จากขั้นตอนนี้จะได้ Provider SQL Server Compact 3.5 กลับมา
15. install VS90sp1-KB945140-ENU.exe เพื่อแก้ไข VS2008SP1
16. install SQL Server CE 3.5SP1 Device Runtime
17. install SQL Server CE 3.5SP1 Runtime (Windows)
18. install SQL Server CE 3.5SP2 for Device
19. install SQL Server CE 3.5SP2 (x86+x64 ลงทั้งคู่)  for Windows Desktop

ทดสอบโดยที่ Server Explorer -> add Connection เลือก data source -> SQL Server Compact Edition 3.5 เลือกไฟล์ Northwind.sdf ที่อยู่ใน C:\Program Files (x86)\Microsoft SQL Server Compact Edition\v3.5\Samples แล้วกด Test Connection มันจะฟ้องว่าไม่มีสิทธิ์เปิด เพราะเป็น Security ของ Windows 8.1 ลองย้ายไฟล์มาที่ D:\ แล้วลองเปิดดู ใช้งานได้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ท่าจอดรถเทียบฟุตบาทห่างไม่เกิน 25cm ด้วย "Sticker"

วันนี้พาพี่ที่บ้านไปสอบใบขับขี่รถยนต์ครั้งที่ 3 ซึ่งสอบตกท่าจอดรถเทียบฟุตบาท โดยคนขับรถเป็นแล้วจะรู้สึกว่าไม่เห็นจะยากตรงไหน แต่สำหรับคนที่เพิ่งหัดขับรถ ประกอบกับได้จับรถป้ายแดงที่เพิ่งถอยออกมาขับได้ ไม่ถึง 5 ชม. นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ ผมคนหนึ่งที่ได้ใบขับขี่มานาน แต่พอให้มาขับจอดเทียบฟุตบาทด้วยรถป้ายแดงใหม่เอี่ยมของคนอื่นแล้ว มีอันต้องจอดห่างทุกที ด้วยเวลาในการซ้อมขับที่เหลือไม่ถึง 3 ชม. ก่อนสอบจริง ทำให้ต้องคิดหาเทคนิควิธีต่าง ๆ ที่จะทำได้ใบขับขี่มา (เพราะเหนื่อยกับความพยายามสอบมา 2 ครั้งแล้ว) จนทำให้คิดเทคนิค "Sticker" นี้ขึ้นได้ โดยปกติแล้วถ้าขับรถจอดเทียบฟุตบาทแล้วพยายามมองกระจกข้างให้ล้อหลังชิดเส้นขอบพอดี ผลออกมาจะทำให้ล้อหน้าปีนฟุตบาท ไอ้ครั้นจะให้พี่ที่เพิ่งหัดขับรถมาได้ไม่ถึง 8 ชม. กะขนาดตัวรถให้ได้ (ซึ่งขนาดผมเองยังคงกะลำบาก) ภายในสิบห้านาทีนั้นโอกาสเป็นไปได้ยากมาก ด้วยการทดลองเทคนิคต่าง ๆ หลาย ๆ แบบ ที่พอจะนึกออกจากประสบการณ์และเวลาอันสั้นรวบรัด ก็ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า ทำอย่างไรให้สามารถมองล้อหน้าว่าติดเส้นขอบหรือเปล่า ได้เหมือนกับที่ใช้กระจก

ทำ TP-Link TL-WA850RE v1.2 ลง OpenWrt ทำเป็น Range Extender และ auto login Hotspot (WISP Mode)

(ลอกคำพูด  บทความเก่า ) สืบเนื่องจากได้รับการแจก Wifi Range Extender TP-Link TL-WA850RE มาเพื่อใช้กระจายสัญญาณ Wifi ของบ้านพัก ที่เป็น GPON ปัญหาคือ TP-Link มันกากกกกกกกกกก..............มากกกกกกกกกกกกกก กล่าวคือ 1. ปัญหา ping กากกกกก.......... เริ่มใช้งานก็ดีอยู่ ping ไป Gateway ได้ ราว 5-10ms แต่พอใช้ไปสัก 3-4 ชม. มันจะ ping ขึ้นเป็น  400-500ms รู้สึกได้เพราะใช้ Remote Desktop ตลอด เม้าส์มันจะกระตุก ๆ ๆ ๆ จนน่ารำคาญ วิธีแก้แสนง่าย (แต่ไม่ยั่งยืน) คือ สั่ง reboot หรือ ชักปลั๊กเสียบใหม่ 2. ปัญหาเนตตัด แน่นอน ระบบ authen พรบ.กำหนดว่า "ของมันต้องมี" ถึงแม้จะตั้งเวลา TimeOut ให้ถึง 24 ชม. แต่มันก็ไม่คล่องตัว เพราะติดกล้องวงจรปิดไว้ดูผ่านเนตตอนไม่อยู่บ้าน แต่พอจะดูกลับ "ดูไม่ได้" เพราะ "เน็ตตัด" ช่างเจ็บกระดองใจจริง ๆ เรื่องเนตตัดที่บ้านก็มี Router LinkSys WRT-350N อยู่ซื้อตอนทำวิจัยปี 51 รูดปรื๊ดมาตั้ง 6500 (ตอนนี้เสียดายตังค์มาก) ซึ่งลง DD-WRT v24sp2 เรียบร้อย ตั้งใจจะทำ auto login แต่ดันมาตายจากไปเสียก่อน ระหว่างพยายามหา Router Linksys WRT54GL ในตำน

ทำ Linksys WRT54GL v1.1 ลง DD-WRT ให้เป็น auto login Hotspot (WISP Mode)

สืบเนื่องจากได้ Router Linksys WRT54GL มา เลยอยากเอามาทำ auto login ให้เหมือน NanoStation M5  ก็เลยต้องพึ่งพา Firmware DD-WRT v24 SP2 mini build 12548M NEWD Eko แต่ทว่า มันไม่มี Station Mode ให้เลือก จากการหาข้อมูลถึงให้รู้ว่าต้องเลือกเป็น Client Mode จากนั้นก็ตั้งค่าปกติ แต่ทำแล้วติด dns cannot resolve ต้องตั้งค่าปลด  UseDNSMasq on DHCP ออก ก็สามารถใช้งาน DNS ได้ เริ่มใส่ script auto login แต่ติดที่ว่า DD-WRT ไม่มี persistence storage พอสร้างไฟล์ script เสร็จ มันก็หายตอนเครื่อง restart ค้นหาข้อมูลก็เจอแนวทางให้ใช้ Startup Script สร้าง script file ตอนเริ่มบูตเครื่องเลย ดังภาพ - script มีการเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะ wget ใช้เหมือนเดิมไม่ได้ Startup Script มีดังนี้ echo '#!/bin/sh' > /tmp/autologin.sh echo 'count=$(ping -c5 -w5 8.8.8.8 | grep "100% packet loss" | wc -l)' >>/tmp/autologin.sh echo 'if [ "$count" -gt 0 ]; then' >> /tmp/autologin.sh echo ' wget -O /dev/null "http://172.168.1.1/CheckVali