ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ท่าจอดรถเทียบฟุตบาทห่างไม่เกิน 25cm ด้วย "Sticker"

วันนี้พาพี่ที่บ้านไปสอบใบขับขี่รถยนต์ครั้งที่ 3 ซึ่งสอบตกท่าจอดรถเทียบฟุตบาท โดยคนขับรถเป็นแล้วจะรู้สึกว่าไม่เห็นจะยากตรงไหน แต่สำหรับคนที่เพิ่งหัดขับรถ ประกอบกับได้จับรถป้ายแดงที่เพิ่งถอยออกมาขับได้ ไม่ถึง 5 ชม. นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้

ผมคนหนึ่งที่ได้ใบขับขี่มานาน แต่พอให้มาขับจอดเทียบฟุตบาทด้วยรถป้ายแดงใหม่เอี่ยมของคนอื่นแล้ว มีอันต้องจอดห่างทุกที ด้วยเวลาในการซ้อมขับที่เหลือไม่ถึง 3 ชม. ก่อนสอบจริง ทำให้ต้องคิดหาเทคนิควิธีต่าง ๆ ที่จะทำได้ใบขับขี่มา (เพราะเหนื่อยกับความพยายามสอบมา 2 ครั้งแล้ว) จนทำให้คิดเทคนิค "Sticker" นี้ขึ้นได้

โดยปกติแล้วถ้าขับรถจอดเทียบฟุตบาทแล้วพยายามมองกระจกข้างให้ล้อหลังชิดเส้นขอบพอดี ผลออกมาจะทำให้ล้อหน้าปีนฟุตบาท ไอ้ครั้นจะให้พี่ที่เพิ่งหัดขับรถมาได้ไม่ถึง 8 ชม. กะขนาดตัวรถให้ได้ (ซึ่งขนาดผมเองยังคงกะลำบาก) ภายในสิบห้านาทีนั้นโอกาสเป็นไปได้ยากมาก ด้วยการทดลองเทคนิคต่าง ๆ หลาย ๆ แบบ ที่พอจะนึกออกจากประสบการณ์และเวลาอันสั้นรวบรัด ก็ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า ทำอย่างไรให้สามารถมองล้อหน้าว่าติดเส้นขอบหรือเปล่า ได้เหมือนกับที่ใช้กระจกข้างมองล้อหลัง

เทคนิคการใช้ "Sticker" นี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญให้คนขับมือใหม่ (มาก ๆ) มีจุดสังเกตว่าขณะนี้ล้อรถกับเส้นขอบทางชิด/ห่างกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งรายละเอียดวิธีการมีดังนี้

  1. นำรถจอดเทียบขอบทางให้ล้อรถชิดเส้นหรือเหยียบเส้นขอบทางมากที่สุด ล้อหน้าและล้อหลังจะต้องขนานกับเส้นขอบทางด้วย
  2. ให้คนขับมือใหม่เล็งเส้นขอบทางระหว่างที่นั่งคนขับไปยังเส้นขอบทางที่เห็นซึ่งมองเห็นติดกับกระโปรงรถ โดยใช้การเล็งเป็นเส้นตรง
  3. นำ Sticker สีใดก็ได้ แต่ควรจะตัดกับสีรถ ไปติดที่ใบปัดน้ำฝน และ กระโปรงรถ ตามแนวการเล็งที่คนขับเล็งไปหาเส้นขอบถนน
Sticker ที่ติดกับกระโปรงรถ จะเป็นจุดสังเกตที่สำคัญของคนขับ โดยคนขับจะต้อง<span>ควบคุมรถให้เส้นขอบทางอยู่ในแนวเดียวกันกับ Sticker ที่ติดกับกระโปรงรถ ตลอดเวลา</span> ส่วน Sticker ที่ติดกับใบปัดน้ำฝนจะเป็นตัวบังคับไม่ให้คนขับเผลอมองผิดแนวเล็ง ตามความรู้ทางคณิตศาสตร์เรื่อง จุดสามจุดบนระนาบ ซึ่งจุดสามจุดในที่นี้ได้แก่ จุด Sticker ที่ติดใบปัดน้ำฝน , จุด Sticker ที่ติดกับกระโปรงรถ, และจุดเส้นขอบทางที่มองเห็น

จุดที่น่าสังเกตก็คือ Sticker ที่ติดกับกระโปรงรถตามแนวเล็งของคนขับถึงเส้นขอบถนน จุดที่ติด Sticker จะอยู่กึ่งกลางของรถพอดี

ผลจากการทดสอบมือใหม่หัดขับ จอดเทียบฟุตบาท ด้วยประสบการณ์การขับรถยนต์ ไม่ถึง 8 ชม. กับรถยนต์ป้ายแดง ที่เพิ่งถอยออกมาแล้วได้ทำความคุ้นเคยไม่ถึง 6 ชม.
  • กรณีไม่ได้ใช้เทคนิคติด Sticker ทดลองจอด 10 ครั้ง จอดรถเทียบเส้นขอบทางไม่เกิน 25cm ตามเกณฑ์ เพียง 1 ครั้ง
  • กรณีใช้เทคนิคติด Sticker ทดลองจอด 15 ครั้ง จอดรถเทียบเส้นขอบทางไม่เกิน 25 cm ตามเกณฑ์ ได้ถึง 14 ครั้ง และ เป็นการจอดเทียบล้อทับเส้นแบบสมบูรณ์แบบ ได้ถึง 7 ครั้ง
หมายเหตุ
  1. เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดวิธีนี้ควรใช้ควบคู่กับการใช้กระจกมองหลังดูเส้นขอบทางกับล้อหลังด้วย 
  2. วิธี นี้จำเป็นต้องมีระยะเคลื่อนตัวรถในทางตรงพอสมควรสัก 50 เมตรขึ้นไป เพราะฉะนั้น หลังจาก U-Turn รถควรให้รถชิดเส้นขอบทางให้มากที่สุดด้วย
อนึ่ง จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ทำให้สอบตกกันบ่อยคือสนามสอบจะมีกรวยวางหลอกบนไหล่ ทาง ซึ่งห่างจากเส้นขอบทางประมาณ 20cm ก่อนถึงจุดหยุดรถเพื่อตรวจผลการสอบ ประมาณ 7 เมตร ถ้ามองจากที่นั่งคนขับจะเห็นเหมือนว่ารถจะเหยียบถูกกรวย ทำให้คนขับกลัวจะเหยียบกรวย และจะทำให้คนขับเบี่ยงออกทางขวา ส่งผลให้ล้อรถห่างเส้นขอบทางมาก ทำให้สอบตก (ที่ตกครั้งที่ 2 มาจากสาเหตุนี้) วิธีแก้ไขทำได้โดยการซ้อมเอากรวย หรือขวดน้ำวางบนก้อนหิน วางบนไหล่ทางในจุดที่ห่างจากเส้นขอบทางประมาณ 20cm ก่อนถึงจุดหยุดรถ เพื่อเป็นการจำลองสถานการณ์จริง แล้วกำชับให้คนขับมือใหม่สนใจแต่การเลี้ยงรถให้เส้นขอบทางอยู่ตรงกับ Sticker เท่านั้น ฝึกเช่นนี้สัก 20 รอบก็จะเกิดความมั่นใจไม่เป็นโรคกลัวกรวยอีกต่อไป

ใครสนใจ วิธีการนี้ก็สามารถทดลองได้ ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อใบขับขี่ และไม่ต้องโกงใช้คนโทรศัพท์บอกทาง ถ้าทำแล้วได้ผล ก็กด like มาให้สักนิดก็พอครับ ถ้ากรุณา ให้ credit คนคิดได้ (ไม่รู้คนแรกหรือเปล่า) อย่างผม จักเป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ

ความคิดเห็น

  1. ขอนำไปลองก่อนนะคะ ขอบคุณค่าา

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอให้สอบผ่านนะครับ ได้ผล หรือต้องปรับปรุงแก้ไขยังไง ก็กลับมาแจ้งให้ทราบด้วยนะคร้าบบบ.........^^

      ลบ
  2. ตรงกระโปรงรถกับที่ปัดน้ำฝนนี่ติดตำแหน่งไหนคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ตามแนวเล็งของตาคนขับ ที่มองไปยังเส้นขอบถนนเลยครับ

      ลบ
  3. บทความมีประโยชน์มากกกกก...ครับ
    ความคิดดีเยี่ยมเลยครับ ขอนำไปใช้ด้วยคนครับ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  4. สอบผ่านแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ได้ผลจริงๆค่ะ

    ตอบลบ
  5. ขอรบกวนถามเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ
    พอดีว่ารถที่ขับ(ฮอนด้า Jazz) มันมองไม่เห็นกระโปรงหน้าอ่ะ
    แต่ก็ได้ไปลองทำแบบแค่สองจุด คือเล็งเส้น กับ จุดที่มาร์คไว้ที่ที่ปัดน้ำฝน
    รู้สึกมันยังไม่ค่อยเที่ยงอ่ะครับ คือชิดบ้างไม่ชิดบ้าง
    อีกอย่างรู้สึกจะเบี้ยวๆด้วยครับ
    พอจะมีวิธีแนะนำเพิ่มเดิมในกรณีนี้อีกนิดนึงไหมครับ
    ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับคำตอบด้วยนะครับ

    ปล.แต่ยังไงก็จะลองฝึกไปเรื่อยๆก่อนครับ เผื่อจะพอจับจุดได้
    อีกอย่าง..ยังมีเวลาฝึกขับอีกพักใหญ่เลย เพราะขนส่งของกทม.เดี๋ยวนี้ต้องจองคิวสอบกันเป็นเดือนๆเลย ฮ่าๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ถ้าสองจุดไม่ได้ผลครับ ยังไงก็เบี้ยวน่ะครับ ผมไม่เคยนั่งรถแจ๊สเสียด้วย
      เอาเป็นว่าหาจุดที่ติดเป็นแนวเล็งให้ได้สามจุด อาจจะติดกับกระโปรงรถส่วนที่ใกล้กับที่ปัดน้ำฝนให้มากขึ้นแล้วอาศัยมองกระจกข้างด้านซ้ายประคองดู หรือไม่ก็หาอะไรที่นูน ๆ มาติดกระโปรงรถเพื่อให้ตาสามารถเล็งครบสามจุดได้

      ได้ผลหรือได้วิธีการที่มีประสิทธิภาพกว่านี้ ก็มาแนะนำได้นะครับ ^^

      ลบ
  6. เห็น 3 จุดพร้อมกันหมายถึง เห็นตอนเลี้ยวซ้ายเข้าเทียบรึป่าวคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ใช่ครับ เลี้ยวเสร็จตั้งล้อตรงขนานกับเส้น

      (เดี๋ยวนี้ Blog มันไม่แจ้งเตือนความเห็นทาง mail แล้วเหรอ?? ผมไม่ได้ mail ตอบกลับหลายครั้งแล้ว

      ลบ
  7. แล้วรถRevoติดที่ในครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ติดลักษณะเดียวกันครับ แต่ต้องจอดรถเทียบฟุตบาทแล้วลองเล็งดูว่าจะติดจุดไห เพราะรถแต่ละคันไม่เหมือนกัน ลองติดแล้วทดลองขับเทียบดูจนมั่นใจนะครับ

      ลบ
  8. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  9. ขับทับเส้นได้แต่กะระยะหยุดไม่ได้ ตอนอยุในรถดูเหมือนจะเลย พอออกมาดูไม่ถึงซะงั้น

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทำ TP-Link TL-WA850RE v1.2 ลง OpenWrt ทำเป็น Range Extender และ auto login Hotspot (WISP Mode)

(ลอกคำพูด  บทความเก่า ) สืบเนื่องจากได้รับการแจก Wifi Range Extender TP-Link TL-WA850RE มาเพื่อใช้กระจายสัญญาณ Wifi ของบ้านพัก ที่เป็น GPON ปัญหาคือ TP-Link มันกากกกกกกกกกก..............มากกกกกกกกกกกกกก กล่าวคือ 1. ปัญหา ping กากกกกก.......... เริ่มใช้งานก็ดีอยู่ ping ไป Gateway ได้ ราว 5-10ms แต่พอใช้ไปสัก 3-4 ชม. มันจะ ping ขึ้นเป็น  400-500ms รู้สึกได้เพราะใช้ Remote Desktop ตลอด เม้าส์มันจะกระตุก ๆ ๆ ๆ จนน่ารำคาญ วิธีแก้แสนง่าย (แต่ไม่ยั่งยืน) คือ สั่ง reboot หรือ ชักปลั๊กเสียบใหม่ 2. ปัญหาเนตตัด แน่นอน ระบบ authen พรบ.กำหนดว่า "ของมันต้องมี" ถึงแม้จะตั้งเวลา TimeOut ให้ถึง 24 ชม. แต่มันก็ไม่คล่องตัว เพราะติดกล้องวงจรปิดไว้ดูผ่านเนตตอนไม่อยู่บ้าน แต่พอจะดูกลับ "ดูไม่ได้" เพราะ "เน็ตตัด" ช่างเจ็บกระดองใจจริง ๆ เรื่องเนตตัดที่บ้านก็มี Router LinkSys WRT-350N อยู่ซื้อตอนทำวิจัยปี 51 รูดปรื๊ดมาตั้ง 6500 (ตอนนี้เสียดายตังค์มาก) ซึ่งลง DD-WRT v24sp2 เรียบร้อย ตั้งใจจะทำ auto login แต่ดันมาตายจากไปเสียก่อน ระหว่างพยายามหา Router Linksys WRT54GL ในตำน

ทำ Linksys WRT54GL v1.1 ลง DD-WRT ให้เป็น auto login Hotspot (WISP Mode)

สืบเนื่องจากได้ Router Linksys WRT54GL มา เลยอยากเอามาทำ auto login ให้เหมือน NanoStation M5  ก็เลยต้องพึ่งพา Firmware DD-WRT v24 SP2 mini build 12548M NEWD Eko แต่ทว่า มันไม่มี Station Mode ให้เลือก จากการหาข้อมูลถึงให้รู้ว่าต้องเลือกเป็น Client Mode จากนั้นก็ตั้งค่าปกติ แต่ทำแล้วติด dns cannot resolve ต้องตั้งค่าปลด  UseDNSMasq on DHCP ออก ก็สามารถใช้งาน DNS ได้ เริ่มใส่ script auto login แต่ติดที่ว่า DD-WRT ไม่มี persistence storage พอสร้างไฟล์ script เสร็จ มันก็หายตอนเครื่อง restart ค้นหาข้อมูลก็เจอแนวทางให้ใช้ Startup Script สร้าง script file ตอนเริ่มบูตเครื่องเลย ดังภาพ - script มีการเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะ wget ใช้เหมือนเดิมไม่ได้ Startup Script มีดังนี้ echo '#!/bin/sh' > /tmp/autologin.sh echo 'count=$(ping -c5 -w5 8.8.8.8 | grep "100% packet loss" | wc -l)' >>/tmp/autologin.sh echo 'if [ "$count" -gt 0 ]; then' >> /tmp/autologin.sh echo ' wget -O /dev/null "http://172.168.1.1/CheckVali