ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กุมภาพันธ์, 2011

จะรู้ได้อย่างไรว่าใครคนนั้น เป็นคู่บุญ หรือคู่บาป?

คู่หญิงชายนั้นมีหลายแบบ ไม่ได้มีแต่คู่เวรกับคู่แท้ คำว่า 'คู่แท้' จะทำให้คุณนึกถึงเพศตรงข้ามที่ติดตามกันไปทุกภพทุกชาติ เป็นตัวเป็นตนจับจองกันอย่างถาวรไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งธรรมชาติไม่ได้มีอะไรอย่างนั้น ตามกฎเหล็กข้อแรกสุดคือ 'ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลงไป' หากหันมาใส่ใจกับคำว่า 'คู่บุญ' และ 'คู่บาป' แทน อย่างนี้จะเห็นอะไรกระจ่างขึ้น เพราะคนเราทำบุญทำบาปสลับกันได้ ไม่มีใครทำบุญทำบาปร่วมกันอย่างใดอย่างหนึ่งได้ตลอดไป และนั่นก็แปลว่าคู่บุญอาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบุญกันมามากกว่าร่วมทำบาป ส่วนคู่บาปก็อาจหมายถึงคู่ที่ร่วมทำบาปกันมากกว่าร่วมทำบุญ มองอย่างนี้อคติจะลดลงอย่างฮวบฮาบทันที ประเภทขัดเคืองใจนิดหน่อยก็เหมาว่านี่คู่เวรของเรา หรือประเภทต้องตาต้องใจเมื่อเริ่มพบก็เหมาว่านี่แหละคู่แท้ของฉัน เราจะเห็นตามจริงว่าถ้าต้องตาเมื่อเห็น ถ้าเย็นใจเมื่อใกล้ อันนั้นก็เป็นคะแนนทางความรู้สึกด้านดีชั้นแรก ต่อเมื่อมีความผูกพันผ่านเหตุการณ์ดีร้าย หรือที่เรียกง่ายๆว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน ตรงนั้นค่อยเป็นคะแนนสะสมในชั้นต่อๆมา กระทั่งปักใจเชื่อได้ว่าเป็นคู่บุญกันจริงๆ

อาจารย์โกยฝากถึงลูก ถ้าใครมีพฤติกรรมกับพ่อแม่ตามนี้จะเจ็บปวดมาก โดยเฉพาะผม

ถึงลูกสุดที่รัก เมื่อยามจากให้คิดถึง เฝ้าชะแง้แลรำพึง เมื่อไรเจ้าพึงติดต่อมา คอยแล้วก็คอยเล่า ได้แต่เฝ้าคำนึงหา จากไปไกลลับตา ห่วงโหยหาใจร้าวราน พ่อแม่ก็แก่เฒ่า คงจากเจ้าอยู่ไม่นาน จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววารของวันคืน ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากใกล้ชิดชื่น แต่ชีพมิยั่งยืน ย่อมร้าวราญสลายไป ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลได้แน่นอน เจ้าไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร ยามกินและยามนอน คลายทุกข์ร้อนผ่อนสุขใจ เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน หวังเพียงจะได้ยล เจ้าเติบโตสง่างาม ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกชั่วยาม ใจแท้มีแต่ความ- หวังติดตามช่วยอวยชัย ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง มีหรือหวังอยู่นานได้ วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง ไม่มีทองจะกองให้ จงตั้งใจเรียนให้เก่ง หาความรู้สู้เอาเอง ให้ระเบงจนวันตาย พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จะเลี้ยงเจ้าอย่าได้หมาย เอาความรู้ไว้เลี้ยงกาย ลูกสบายแม่กับพ่อก็ชื่นใจ

คุณสมบัติของคู่รักที่จะสามารถแต่งงานกันได้ ตามดำรัสของพระพุทธเจ้า

  “พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า คน ที่จะแต่งงานกันได้ต้องทำบุญร่วมกันมาก่อนตั้งแต่ชาติที่แล้ว ถึงจะมาปิ๊งกันได้ และในชาติปัจจุบันก็ต้องเกื้อหนุนกัน ต่างฝ่ายต่างมีปัญญาเสมอกัน ปัญญาในที่นี้ไม่ใช่ความฉลาดนะคะ แต่คือความรู้เท่าทันสิ่งต่างๆ และต้องมีการให้ที่เสมอกัน แต่ไม่ใช่ว่าต้องให้เหมือนกันทุกอย่าง แล้วก็ต้องมีศีลเสมอกัน นุชเองก็ไม่เคยแต่งงานมีชีวิตคู่ ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าต้องเตรียมตัวยังไง ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไปค่ะ แต่นุชเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ครองคู่กันได้ยั่งยืน ” [คัดลอกมาจาก บทความ ที่รักจ๊ะ! ใครว่าเธอ "ไม่หล่อ" เป็นบทให้สัมภาษณ์ของน้องนุช แฟนสาวคุณเอกราชเก่งทุกทาง,Daily News Manager online, http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000018254]

เทคนิคการสอบใบขับขี่รถยนต์ ท่าจอดรถเทียบฟุตบาทห่างไม่เกิน 25cm ด้วย "Sticker"

วันนี้พาพี่ที่บ้านไปสอบใบขับขี่รถยนต์ครั้งที่ 3 ซึ่งสอบตกท่าจอดรถเทียบฟุตบาท โดยคนขับรถเป็นแล้วจะรู้สึกว่าไม่เห็นจะยากตรงไหน แต่สำหรับคนที่เพิ่งหัดขับรถ ประกอบกับได้จับรถป้ายแดงที่เพิ่งถอยออกมาขับได้ ไม่ถึง 5 ชม. นั้นเป็นเรื่องที่ยากจะทำได้ ผมคนหนึ่งที่ได้ใบขับขี่มานาน แต่พอให้มาขับจอดเทียบฟุตบาทด้วยรถป้ายแดงใหม่เอี่ยมของคนอื่นแล้ว มีอันต้องจอดห่างทุกที ด้วยเวลาในการซ้อมขับที่เหลือไม่ถึง 3 ชม. ก่อนสอบจริง ทำให้ต้องคิดหาเทคนิควิธีต่าง ๆ ที่จะทำได้ใบขับขี่มา (เพราะเหนื่อยกับความพยายามสอบมา 2 ครั้งแล้ว) จนทำให้คิดเทคนิค "Sticker" นี้ขึ้นได้ โดยปกติแล้วถ้าขับรถจอดเทียบฟุตบาทแล้วพยายามมองกระจกข้างให้ล้อหลังชิดเส้นขอบพอดี ผลออกมาจะทำให้ล้อหน้าปีนฟุตบาท ไอ้ครั้นจะให้พี่ที่เพิ่งหัดขับรถมาได้ไม่ถึง 8 ชม. กะขนาดตัวรถให้ได้ (ซึ่งขนาดผมเองยังคงกะลำบาก) ภายในสิบห้านาทีนั้นโอกาสเป็นไปได้ยากมาก ด้วยการทดลองเทคนิคต่าง ๆ หลาย ๆ แบบ ที่พอจะนึกออกจากประสบการณ์และเวลาอันสั้นรวบรัด ก็ทำให้เกิดแนวคิดที่ว่า ทำอย่างไรให้สามารถมองล้อหน้าว่าติดเส้นขอบหรือเปล่า ได้เหมือนกับที่ใช้กระจก

เริ่มต้นมี blog

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พยายามเริ่มเขียนบันทึก มีหลายเรื่องที่อยากบันทึกไว้ ส่วนมากไว้ที่ facebook บ้าง windows live บ้าง แต่แล้วก็พบว่า เรื่องบางเรื่องมีประโยชน์กับคนหลายคน ถ้าไว้ที่ facebook ซึ่งจะดูได้เฉพาะคนที่มี facebook เท่านั้น คนอื่นเข้าถึงยาก เลยต้องหาที่บันทึกที่สามารถเผยแพร่ได้มาก ๆ แต่ก็ต้องปรับปรุงและกลั่นกรองเนื้อหาที่จะเขียนด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะงามไส้ได้